SCN ดีมานด์ดันยอดขายก๊าซพุ่ง ลุยธุรกิจพลังงานขยายฐานโต
ข่าวสาร
|
19 มกราคม 2567

      #SCN #ทันหุ้น - SCN ปักธงรายได้โต 30% จากทั้ง 4 กลุ่ม Oil & Gas, ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจขนส่ง มองความต้องการ NGV ยังสูง ด้านขนส่งก๊าซ NGV ให้ปตท. ปีนี้มีอัพไซด์ หลังคว้าพื้นที่ขนส่งเพิ่มรวมปริมาณการขนส่งเพิ่มเป็น 1 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เล็งนำ บริษัทย่อยเข้าเทรดปลายปี ขยายธุรกิจพลังงานเพิ่ม

      ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทน และขนส่งแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจ Oil & Gas, ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy), ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจขนส่ง รวมถึงธุรกิจเดิมได้แก่รับเหมาก่อสร้าง EPC โดยคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตที่ราว 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

      โดยธุรกิจ Oil & Gas ในปัจจุบันถือว่าเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัท ขณะที่ธุรกิจการขนส่งก๊าซ NGV ไปยังปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของ Oil & Gas ปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้การใช้ก๊าซ NGV ยังได้รับความนิยมอยู่ และโรงงานอุตสาหกรรมนิยมใช้แก๊ส LPG ทำให้รายได้ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทมีพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาช่วยทำเรื่องการตลาดขยับขึ้นมาที่ราว 20-30% ของยอดขาย

      นอกจากนี้บริษัทยังมีสัมปทานขนส่งก๊าซ NGV ให้แก่ ปตท. ซึ่งเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัท, การซ่อมบำรุงสถานี NGV ทั่วประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ 75%ของสถานีทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสัญญารายได้ระยะยาว และปี 2567 ยังมีการประมูล สัญญาที่หมดอายุ ซึ่งบริษัทตั้งเป้า 100%ของผู้ซ่อมบำรุงสถานีทั่วประเทศไทย

      ด้านธุรกิจการขนส่งขนส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปีนี้จะเป็นดาวเด่นเนื่องจาก บริษัทได้รับคัดเลือกขนส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มทั้งหมด 6 เขต ได้แก่ ลาดหลุมแก้ว ลำลูกกา สามโคก (2 เขต) เชียงรากน้อย และกิ่งแก้ว รวมปริมาณการขนส่งเพิ่มเป็น 1 ล้านกิโลกรัมต่อวัน

      *ขยายฐานพลังงานเพิ่ม

      ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่เมืองมินบู เฟส 1- 2 ปัจจุบันสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD และการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นกำไรสุทธิที่ราว 50 ล้านบาทต่อปี

      ขณะที่ในประเทศไทยบริษัทมีโรงไฟฟ้าและโซลาร์ฟาร์มจำนวน 6 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป ที่ดำเนินการภายใต้ บริษัท สแกน แอดวานซ์พาวเวอร์ จำกัด หรือ SAP (ซึ่งเป็นบริษัทย่อย SCN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบัน SCN ถือหุ้นอยู่ที่ 61%

      โดย SAP มีกลยุทธ์การดำเนินงานขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าต่างๆ และมีรายได้จากการผลิตไฟ รวมถึงมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ต่อของโครงการอยู่ที่ 10% ปัจจุบันมีมากกว่า 35 โครงการ รวม 25 เมกะวัตต์ เเละมีแผนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ คาดเข้าเทรดได้ช่วงปลายปี 2567 นี้

      *อัดฉีดงบต่อยอดธุรกิจ

      และบริษัทได้วางงบลงทุน 20 ล้านบาท ทำโครงการ “Private PPA” อีวี ชาร์จเจอร์ นำร่องพื้นที่หอพัก คอนโดมิเนียม โดยมองว่าปัจจุบันผู้ใช้รถ EV มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้มากในอนาคต คาดผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 10% ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทอนุมัติงบการศึกษาการทำไฮโดรเจนเพิ่มเติมในอนาคต

      สำหรับอื่นๆ ทั้งธุรกิจด้านการซ่อมบำรุงรถขสบก. ยังมีสัญญาซ่อมรถในช่วงครึ่งหลังอีก 5 ปี และคาดว่าจะได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรถเก่า ขณะที่รับเหมาก่อสร้าง EPC ปัจจุบันยังงานก่อสร้างปั๊มน้ำมันในมือ (Backlog) อีกราว 100 ล้านบาท

ติดต่อเรา

เราเป็นบริษัทชั้นนำและเป็นผู้นำทางธุรกิจ
ด้านพลังงานทางเลือก ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้น

ติดต่อเรา